ถ้าพูดถึงเทศกาลที่โรแมนติกที่สุดแห่งปี หลายคนอาจนึกถึง วันวาเลนไทน์ ที่ตรงกับวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี แต่รู้ไหมว่าทางฝั่งจีนก็มีวันวาเลนไทน์ในแบบของตนเองด้วย ที่เรียกว่า “เทศกาลชีซีเจี๋ย” (Qixi Festival) หรือในภาษาจีนกลางว่า 七夕节 (qīxī jié) ซึ่งแปลตรงตัวว่า “เทศกาลพลบค่ำวันที่ 7” เนื่องจากตรงกับวันที่ 7 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติ ชาวจีนจึงเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Double Seventh Festival ด้วยเลข “7” ที่ซ้ำสองเป็นสัญลักษณ์ของความโรแมนติกและความพิเศษที่เกิดขึ้นในวันนั้น
ความหมายและประวัติของเทศกาลชีซีเจี๋ย
เทศกาลชีซีเจี๋ยมีความหมายลึกซึ้งทั้งในด้านวัฒนธรรมและจิตใจของผู้คน โดยในภาษาอังกฤษมักเรียกว่า “Chinese Valentine’s Day” เนื่องจากเป็นวันที่สื่อถึงความรักและความผูกพันในแบบของชาวจีน จากความเชื่อโบราณ เทศกาลนี้มีที่มาจากการบูชาพระในวันเพ็ญกลางเดือนที่ 3 ซึ่งสืบเนื่องมาจากความเชื่อในภูมิปัญญาด้านดาราศาสตร์ของชาวจีนที่สังเกตเห็นว่าดวงดาวและทางช้างเผือกมีความสัมพันธ์กับตำนานรักอันยิ่งใหญ่ นอกจากนี้ ชื่อ “ชีซีเจี๋ย” ยังเกิดจากการผสมผสานระหว่างคำว่า “ชี” (七) หมายถึง เจ็ด และ “ซี” (夕) หมายถึง ยามเย็นหรือพลบค่ำ ส่วน “เจี๋ย” (节) คือ เทศกาล ซึ่งทั้งหมดนี้สะท้อนถึงความงดงามของเวลากลางคืนในเดือนที่สว่างไสวด้วยแสงดาว
ตำนานรัก: หนิวหลางกับจือหนู่ว์
ตำนานที่เป็นที่รู้จักกันดีในเทศกาลชีซีเจี๋ยคือเรื่องราวของ “หนิวหลาง” (牛郎, niúláng) หนุ่มเลี้ยงวัวผู้ยากจน กับ “จือหนู่ว์” (织女, zhīnǚ) สาวทอผ้าที่เป็นนางฟ้า ผู้เล่าเรื่องราวรักนี้เต็มไปด้วยความโรแมนติกและดราม่าในเวลาเดียวกัน เมื่อหนิวหลางได้พบกับนางฟ้าพร้อมกับพี่น้องนางฟ้า 7 องค์ที่ลงมาอาบน้ำบนโลกมนุษย์ หน้าตาของหนิวหลางที่มีวัววิเศษ (ซึ่งในอดีตเคยอยู่บนสวรรค์แต่ถูกลงโทษให้มาเกิดเป็นวัว) กลับสร้างโอกาสให้เขาได้แอบขโมยเสื้อผ้าของนางฟ้าองค์หนึ่ง ทำให้นางฟ้าไม่สามารถเตรียมตัวกลับสวรรค์ได้ทัน เมื่อจือหนู่ว์ไม่พบเสื้อผ้าของตน หนิวหลางจึงยื่นข้อเสนอให้แลกเปลี่ยนว่าจือหนู่ว์จะแต่งงานกับเขา ทั้งสองจึงตกหลุมรักกันและมีลูกด้วยกัน แต่แล้วเมื่อเรื่องราวนี้ถูกเปิดเผย ซีหวังหมู่ (西王母, xī wángmǔ) เทพมารดรแห่งทิศตะวันตกจึงบัญชานางฟ้ากลับสวรรค์ ทั้งหนิวหลางและจือหนู่ว์จึงถูกแบ่งกั้นด้วยแม่น้ำสายใหญ่ที่เปรียบเสมือนทางช้างเผือก แต่ด้วยความพยายามและความรักที่มั่นคง เหล่านกสาลิกาได้รวมตัวกันสร้างสะพานให้ทั้งคู่ได้พบกันเพียงปีละครั้งในวันที่ 7 เดือน 7
เทศกาลชีซีเจี๋ยกับดาราศาสตร์และความรู้โบราณ
เทศกาลชีซีเจี๋ยไม่เพียงแต่มีตำนานรักที่ลึกซึ้งกินใจเท่านั้น แต่ยังสะท้อนถึงภูมิปัญญาด้านดาราศาสตร์ของชาวจีนโบราณอีกด้วย “แม่น้ำ” ที่เกิดจากการที่ซีหวังหมู่ขว้างปิ่นปักผมออกไปเพื่อกั้นไม่ให้หนิวหลางตามจือหนู่ว์มาถึงสวรรค์นั้น เปรียบได้กับทางช้างเผือก (Milky Way) ที่ทอดยาวบนท้องฟ้า ส่วน “หนิวหลาง” และ “จือหนู่ว์” ยังมีตัวแทนเป็นดาวฤกษ์ที่สว่างจ้า ได้แก่ ดาวอัลแทร์ (Altair) สำหรับหนุ่มเลี้ยงวัว และดาวเวก้า (Vega) สำหรับสาวทอผ้า ซึ่งอยู่ที่ปลายทั้งสองด้านของทางช้างเผือก เทศกาลชีซีเจี๋ยในช่วงฤดูร้อนของประเทศจีนมักจะมีท้องฟ้าแจ่มใส ทำให้การสังเกตเห็นดาวเหล่านี้เป็นเรื่องง่ายและชัดเจน สะท้อนให้เห็นถึงความสามารถของชาวจีนโบราณในการผูกโยงตำนานความรักเข้ากับปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
คำศัพท์ภาษาจีนที่น่ารู้เกี่ยวกับเทศกาลชีซีเจี๋ย
เพื่อให้เข้าใจความหมายและความลึกซึ้งของเทศกาลนี้ได้ดียิ่งขึ้น นี่คือคำศัพท์ภาษาจีนที่เกี่ยวข้องกับเทศกาลชีซีเจี๋ย:
- 七夕节 (qīxī jié) – เทศกาลชีซีเจี๋ย
- 牛郎 (niúláng) – หนุ่มเลี้ยงวัว
- 织女 (zhīnǚ) – สาวทอผ้า
- 银河 (yínhé) – ทางช้างเผือก
- 西王母 (xī wángmǔ) – เทพมารดรแห่งทิศตะวันตก
- 喜鹊 (xǐquè) – นกสาลิกา
- 鹊桥 (quèqiáo) – สะพานนกสาลิกา
- 结婚 (jiéhūn) – แต่งงาน
- 情人节 (qíngrén jié) – วันวาเลนไทน์
สุดท้ายนี้ เมื่อเทศกาลชีซีเจี๋ยมาถึงในทุกปี หนุ่มสาวชาวจีนไม่เพียงแต่รำลึกถึงตำนานรักอันลึกซึ้งของ “หนิวหลาง” กับ “จือหนู่ว์” แต่ยังใช้โอกาสนี้ในการแสดงความรักด้วยการมอบของขวัญ ดอกไม้ และคำอวยพรที่อบอุ่นให้แก่คนที่ตนรัก ขอให้ทุกคนได้พบกับรักแท้ที่หอมหวาน ยืนยาว และปราศจากอุปสรรค ขอให้ทุกคน “七夕节快乐” (qīxī jié kuàilè) สุขสันต์เทศกาลชีซีเจี๋ย!